ในการเล่นไฮโล เสียงลูกเต๋ากระทบจานถือ เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ผู้เล่นใช้ในการวิเคราะห์ผลการออกรางวัล เนื่องจากเสียงลูกเต๋าสามารถบอกถึงน้ำหนัก ความเร็ว และทิศทางของลูกเต๋าได้ ซึ่งจะส่งผลต่อตำแหน่งของลูกเต๋าเมื่อหยุดนิ่งบนจาน ผู้เล่นสามารถใช้เสียงลูกเต๋ามาช่วยวิเคราะห์ผลการออกรางวัลได้
เสียงลูกเต๋ากระทบจาน มี 4 แบบ ดังนี้
- เสียงดัง : เสียงดังเกิดจากการที่ลูกเต๋ากระทบจานอย่างรุนแรง มักจะเกิดจากลูกเต๋าที่มีน้ำหนักมากหรือเขย่าลูกเต๋าแรงเกินไป เสียงแบบนี้มักจะบ่งบอกว่าลูกเต๋าจะออกเลขสูง เช่น 6 หรือ 5
- เสียงแหลม : เสียงแหลมเกิดจากการที่ลูกเต๋ากระทบจานอย่างเบาๆ มักจะเกิดจากลูกเต๋าที่มีน้ำหนักเบาหรือเขย่าลูกเต๋าเบาเกินไป เสียงแบบนี้มักจะบ่งบอกว่าลูกเต๋าจะออกเลขต่ำ เช่น 1 หรือ 2
- เสียงดังแหลม : เสียงดังแหลมเกิดจากการที่ลูกเต๋ากระทบจานทั้งแรงและเบา มักจะเกิดจากการที่ลูกเต๋ามีน้ำหนักปานกลางหรือเขย่าลูกเต๋าปานกลาง เสียงแบบนี้มักจะบ่งบอกว่าลูกเต๋าจะออกเลขกลาง เช่น 3 หรือ 4
- เสียงดังสั้น : เสียงดังสั้นเกิดจากการที่ลูกเต๋ากระทบจานอย่างรุนแรง แต่สั้นๆ มักจะเกิดจากลูกเต๋าที่มีน้ำหนักมากหรือเขย่าลูกเต๋าแรงเกินไป แต่ลูกเต๋าไม่ได้กระเด็นไปไกล เสียงแบบนี้มักจะบ่งบอกว่าลูกเต๋าจะออกเลขคู่ เช่น 22 หรือ 33
โดยสรุป ผู้เล่นสามารถแทงไฮโลตามเสียงลูกเต๋าได้ดังนี้
- เสียงดัง : ควรแทงเลขสูง เช่น 6 หรือ 5
- เสียงแหลม : ควรแทงเลขต่ำ เช่น 1 หรือ 2
- เสียงดังแหลม : ควรแทงเลขกลาง เช่น 3 หรือ 4
- เสียงดังสั้น : ควรแทงเลขคู่ เช่น 22 หรือ 33
สำหรับวิธีการแทงไฮโลให้ชนะ ขึ้นอยู่กับความถนัดและการวิเคราะห์ของผู้เล่น โดยทั่วไปแล้ว ผู้เล่นมักจะแทงตามเสียงลูกเต๋าที่ได้ยิน เช่น หากได้ยินเสียงดัง ก็มักจะแทงเลขสูง หากได้ยินเสียงเบา ก็มักจะแทงเลขต่ำ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การเล่นไฮโลเป็นเกมแห่งโชคลาภ ผู้เล่นจึงควรเล่นอย่างมีสติและรู้จักลิมิตของตัวเอง