มาดูเคล็ดลับเด็ดๆ เพื่อเอาชนะเกมบาคาร่า GClub กัน! เอาชนะเจ้ามือด้วยกลยุทธ์ของเรา แล้วคว้าเงินรางวัลกลับบ้านไปเลยจากเกมบาคาร่าออนไลน์สุดฮิต ไม่มีวิธีไหนที่การันตีว่าคุณจะชนะ 100% การมีกลยุทธ์จะช่วยให้คุณมีแผนการเล่นที่ชัดเจน
10 วิธีเล่นบาคาร่าสุดเจ๋ง
1. ระบบ 3 2
ระบบนี้จะใช้ชิป 5 อัน มูลค่าเท่ากัน แล้วแบ่งเดิมพันเป็น 2 ส่วน สำหรับบาคาร่า เราจะเลือกแทงเจ้ามือคู่กับเจ้ามือ หรือผู้เล่นคู่กับผู้เล่น แล้วก็ทำตามนี้:
- วาง 3 ชิป แทงเจ้ามือ/ผู้เล่น
- วาง 2 ชิปที่เหลือ แทงเจ้ามือคู่/ผู้เล่นคู่
- ทำซ้ำไปเรื่อยๆ แล้วก็ปรับมูลค่าชิปตามงบประมาณได้
เราสามารถปรับเปลี่ยนได้นะ เช่น สลับไปมาระหว่างแทงเจ้ามือกับผู้เล่น หรือจะผสมๆกันระหว่างแทงเจ้ามือ/ผู้เล่น กับ เจ้ามือคู่/ผู้เล่นคู่ ก็ได้เหมือนกัน
2. ฟีโบนัชชี
อันนี้จริงๆแล้วเป็นกลยุทธ์ของรูเล็ต แต่เอามาปรับใช้กับบาคาร่าได้นะ หลักๆคือเราจะเน้นแทงฝั่งเจ้ามือ (Banker) แล้วก็วางเงินเดิมพันตามลำดับฟีโบนัชชีไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ชนะ ให้เลื่อนไปขั้นต่อไปในลำดับ ถ้าแพ้ ก็กลับไปเริ่มที่ขั้นแรกใหม่
ลำดับฟีโบนัชชีก็คือ:
- 1 – 1 – 2 – 3 – 5 – 8 – 13 – 21 – 34 – 55 – 89 – 144 – 233 – 377 – 610 – 987
ยกตัวอย่าง
- สมมติว่าเราตั้งเงินเดิมพันขั้นต่ำไว้ที่ 50 บาท
- ลำดับก็จะเป็น 50-50-100-150-250-400 บาท ไปเรื่อยๆ
- ถ้าแพ้ ก็กลับไปเริ่มที่ 50 บาทใหม่ แล้วเล่นตามลำดับไปจนกว่าจะแพ้อีกที
3. แบบเจมส์ บอนด์
อันนี้มาจากสายลับคนโปรดของเรานั่นเอง แต่ละรอบเราจะเล่นด้วยเงิน 200 บาท แล้วแบ่งเป็น 3 ส่วน:
- 140 บาท แทงเจ้ามือ (Banker)
- 50 บาท แทงผู้เล่น (Player)
- 10 บาท แทงเสมอ (Tie)
เราสามารถปรับตัวเลขได้ตามงบประมาณนะ ขอแค่ให้แบ่งสัดส่วนใกล้เคียงกับแบบเดิมก็พอ แต่อย่าลืมตั้งงบไว้ แล้วก็อย่าเล่นเกินตัวล่ะ
4. ระบบ 1 3 2 6
ระบบนี้คล้ายๆ กับฟีโบนัชชีเลย แต่เราจะเพิ่มจำนวนชิปที่เล่นแทนที่จะเพิ่มเงินเดิมพัน เริ่มแรก ก็กำหนดขนาดชิปที่จะเป็นเงินเดิมพันพื้นฐานของเรา พอชนะแต่ละรอบ ก็เพิ่มชิปไปตามนี้ 1, 3, 2, 6 ถ้าชนะครบรอบที่ 6 ก็เริ่มใหม่ที่ 1
ยกตัวอย่าง:
ตั้งเงินเดิมพันขั้นต่ำไว้ที่ 50 บาท
- รอบที่ 1: วาง 1 ชิป (50 บาท) ถ้าชนะไปต่อรอบ 2
- รอบที่ 2: วาง 3 ชิป (150 บาท) ถ้าชนะไปต่อรอบ 3
- รอบที่ 3: วาง 2 ชิป (100 บาท) ถ้าชนะไปต่อรอบ 4
- รอบที่ 4: วาง 6 ชิป (300 บาท) ถ้าชนะเริ่มใหม่ที่รอบ 1 ควรเน้นเดิมพัน Player/Banker เพราะมีโอกาสชนะมากกว่า Tie หรือ Player/Banker Pair
5. มาร์ติงเกลแบบกลับด้าน
อันนี้คล้าย Martingale แต่ต่างกันตรงที่ ถ้าชนะรอบไหน ก็เพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าในรอบถัดไป ถ้าแพ้ก็ลดเงินเดิมพันลง แทนที่จะชนะเพื่อทบต้นทุน ระบบนี้เน้นลดความเสียหายเวลาแพ้
6. เชียร์ Player
เหมือนกับเชียร์ Banker เลย แต่เราจะเดิมพันฝั่ง Player อย่างเดียว โอกาสชนะก็ใกล้เคียงกัน แถมจ่ายมากกว่านิดหน่อยที่ 1:1 ไม่มีอะไรการันตีว่า Player จะชนะทุกรอบนะ เพราะงั้นก็ปรับเงินเดิมพันตามสถานการณ์ไป
7. มิกซ์แอนด์แมตช์
ชื่อก็บอกอยู่แล้ว อันนี้ยืดหยุ่นสุดๆ มีกฎเดียวคือ อย่าเดิมพันแบบเดียวตลอด กำหนดไว้เลยว่าจะเดิมพันแบบเดิมกี่ครั้งติดกัน พอถึงลิมิตก็เปลี่ยนไปเดิมพันแบบอื่นจนครบ 5 แบบที่มี พอครบรอบก็เริ่มใหม่ ได้ลองเดิมพันทุกแบบ ไม่พลาดโอกาสชนะแน่นอน
8. เดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker)
เจ้ามือมีโอกาสชนะมากกว่านิดหน่อยในแต่ละรอบ วิธีนี้ง่ายมาก แค่เดิมพันฝั่งเจ้ามือทุกๆ รอบ
9. เน้นเดิมพันคู่ (Pair Bets)
การเดิมพันคู่นี่แหละมีโอกาสได้เงินเยอะสุดจากเงินเดิมพันของคุณ วิธีนี้เน้นไปที่การเดิมพันเฉพาะคู่ผู้เล่น (Player Pair) หรือคู่เจ้ามือ (Banker Pair) เพื่อชนะ
10. มาร์ติงเกล (Martingale)
แพ้ปุ๊บก็เพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าเลย! แนวคิดคือ เมื่อคุณชนะ มันจะชดเชยเงินที่เสียไปก่อนหน้า วางแผนการเดิมพันของคุณ และทำตามอย่างเคร่งครัด
เทคนิคเด็ดพิชิตบาคาร่า
- ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวเก่งเอง: การจะเก่งอะไรก็ต้องใช้เวลา บาคาร่าก็เหมือนกัน ใจเย็นๆ ค่อยๆ ฝึกไป ลองเล่นหลายๆ แบบ ดูว่าชอบแนวไหน แล้วค่อยไปลุยของจริง
- ลองมันทุกแบบ: ถึงจะบอกให้เลือกกลยุทธ์เดียวแล้วไปให้สุด แต่ลองเล่นหลายๆ แบบก่อนก็ไม่เสียหาย จะได้รู้ว่าอันไหนใช่
- เจอที่ใช่ ก็ซ้อมให้สุด: พอลองมาเยอะแล้ว ก็เลือกอันที่ชอบที่สุด แล้วฝึกให้หนัก ฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่ง
- เลือกเกมที่ชอบ: เลือกกลยุทธ์ได้แล้ว ก็ไปลองเล่นบาคาร่าแบบต่างๆ ดู ชอบเร็วๆ ก็ Speed Baccarat ชอบง่ายๆ ก็ Baccarat Classic เลือกเอาที่ชอบเลย
- ตั้งลิมิตไว้ แล้วเล่นให้พอ: ตั้งไว้เลยว่าจะเล่นเท่าไหร่ แล้วเล่นแค่นั้นพอ